“ปวีณา” พา “น้องอั้ม” สาววัย 16 ป่วยโรคต้อหิน-ต้อกระจกรักษาที่รพ.วิมุต

จ.ปทุมธานี 2 ส.ค.67 “ปวีณา” พา “น้องอั้ม” สาววัย 16 ปี ครอบครัวยากจน เป็นโรคต้อหิน ต้อกระจกที่ดวงตามาตั้งแต่เล็กไปรักษาที่รพ.วิมุต หลังตาซ้ายบอดสนิท ตาขวาเหลือแสงเพียงริบหรี่ ต้องทนทุกข์อยู่ในโลกมืด แพทย์ช่วยเหลือเต็มที่โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ขอแสงสว่างอีกครั้ง! วันที่ 2 ส.ค.67 เวลา 11.00 น. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี น.ส.ขวัญตา อายุ 39 ปี ผู้เป็นแม่ ได้พา “น้องอั้ม” ลูกสาววัย 16 ปี เดินทางมาจาก จ.กาญจนบุรี สภาพน้องอั้ม ดวงตาซ้ายมืดบอดและดวงตาขวาเลือนลางเห็นแสงเพียงริบหลี่ สาเหตุจากโรคต้อหิน ต้อกระจก เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ขอความช่วยเหลือส่งลูกสาวไปรักษาหากยังพอมีหวังขอให้ลูกได้เหลือดวงตาข้างขวาไว้เพื่อจะได้มองเห็นแสงสว่างในชีวิตอีกครั้ง

น.ส.ขวัญตา กล่าวว่า ขณะกำลังตั้งครรภ์น้องอั้มได้เกือบ 7 เดือน แม่กับพ่อทำงานรับจ้างก่อสร้างที่จ.เพชรบุรี จู่ๆ กลางดึกเกิดเจ็บท้องคลอด เมื่อไปถึงโรงพยาบาลลูกได้คลอดก่อนกำหนด น้ำหนักเพียง 1.2 กก. แพทย์ให้ลูกอยู่ในตู้อบประมาณ 2 เดือน ระหว่างนั้นได้ตรวจพบว่า เด็กมีเส้นเลือดฝอยขึ้นที่ตา 2 ข้างผิดปกติ จึงมีการส่งตัวมารักษาต่อที่กรุงเทพฯ แพทย์ได้ทำการยิงเลเซอร์ให้น้องตั้งแต่อายุ 2 เดือน จากนั้นได้ส่งตัวกลับมาภูมิลำเนาและให้แม่พาไปพบแพทย์เพื่อดูอาการอีกครั้งที่โรงพยาบาลอำเภอตอนเด็ก 8 เดือน ก็ไม่พบความผิดปกติ แพทย์ก็ไม่ได้นัดอีก

จนกระทั่งลูกสาว 2 ขวบ 6 เดือน มีคนทักว่าน้องอั้มเริ่มเดินชน เดินไม่ตรงทาง และพระทักว่าลูกสาวตาไม่ดีให้รีบไปหาหมอ แม่จึงมาสังเกตเห็นดวงตาของลูกทั้ง 2 ข้างเป็นฝ้าขาวก่อนจะรีบพาไปตรวจตาที่โรงพยาบาลในอำเภอ แพทย์ก็ให้ยามาหยอด มากิน ผ่านไปอีก 2 ปี ลูกสาว 4 ขวบครึ่งแม่เห็นลูกไม่ดีขึ้นจึงขอให้แพทย์ช่วยส่งตัวมารักษาที่กรุงเทพฯ แพทย์ได้ทำการผ่าตัดต้อหินที่ตาทั้ง 2 ข้าง โดยเว้นระยะทำตาทีละข้าง จากนั้นก็จะต้องมาตามนัดแพทย์เป็นประจำเพื่อขูดต้อหินที่เคลือบดวงตาอยู่เรื่อยๆ และจี้ความเย็นที่ดวงตา ซึ่งแม่ได้พาลูกมารักษาต่อเนื่องจนถึง 10 ขวบ

ต่อมาแม่มีปัญหากับพ่อจนต้องเลิกรากัน น้องอั้มก็อยู่กับพ่อและย่า ย่าแก่ชรามากแล้ว ส่วนพ่อต้องไปขับรถรับจ้างจึงทำให้น้องอั้มไม่ได้รักษาต่อเนื่อง ซึ่งพ่อเองก็กีดกันไม่ให้ลูกติดต่อแม่ จนไม่นานที่ผ่านมาน้องอั้มบอกว่าตาซ้ายมืดบอดมองไม่เห็นแล้ว ขณะที่ตาขวากำลังจะมืดลงทุกที จึงขอให้แม่ช่วยพามาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ

หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานกับ รพ.วิมุต ทันที เพื่อขอให้ช่วยตรวจรักษาน้องอั้มเป็นการด่วน ซึ่งทางรพ.วิมุต ยินดีจะให้การช่วยเหลือโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ยากไร้

เวลา 14.30 น. นางปวีณา ได้พาน้องอั้มกับแม่เดินทางไปที่รพ.วิมุต ตามที่นัดหมาย โดยมี นพ.ตะวัน จิตต์จุฬานนท์ ผอ.รพ.วิมุต และทีมงานให้การต้อนรับ จากนั้นได้พาน้องอั้ม ไปพบ พญ.จีรนันท์ ทรัพย์ทวีผลบุญ จักษุแพทย์ แพทย์ผู้ชำนาญการโรคต้อหิน รพ.วิมุต โดยพญ.จีรนันท์ ได้ทำการตรวจดวงตาน้องอั้มทันที จากการตรวจประเมินเบื้องต้นพบว่า น้องอั้มมีความผิดปกติหลายอย่าง อาจจะเกิดจากการคลอดก่อนกำหนด ทำให้การพัฒนาดวงตาได้ไม่เต็มที่ที่จอตา ทำให้เกิดเส้นเลือดในดวงตาเจริญไม่เต็มที่ ซึ่งจากการส่องกล้องพบว่าได้รับการแก้ไขมาแล้วช่วงอายุประมาณ 2 เดือน จากประวัติที่น้องอั้มให้โดยการเลเซอร์ที่ดวงตาทั้ง 2 ข้าง

ปัญหาที่พบในตอนนี้คือ ต้อหิน จากการวัดความดันตาทั้งสองข้าง พบว่าความดันตาข้างขวาอยู่ที่ 38 ข้างซ้ายความดันตาอยู่ที่ 60 ความดันตาสูงขึ้นเกินเกณฑ์ปกติไปมากทั้งสองข้าง เกิดจากการพัฒนาได้ไม่เต็มที่ตั้งแต่เด็กเพราะจะมีโครงสร้างคล้ายท่อระบายน้ำในตาถ้าการเจริญเติบโตไม่เต็มที ซึ่งในเด็กอาจไม่สามารถบอกได้ จึงทำให้เกิดภาวะต้อหินอย่างต่อเนื่อง จึงต้องทำการแก้ไขต้อหินก่อน วันนี้แพทย์จึงได้ทำการเจาะเลือดดูก่อนว่ามีข้อห้ามที่ต้องให้ยาอะไรหรือไม่ หากไม่มีก็จะสั่งยาหยอดและยาทานให้กับน้องอั้ม และจะรักษาตามขั้นตอน

นางปวีณา กล่าวว่า ขอบคุณ รพ.วิมุต ที่ให้การช่วยเหลือเคสของมูลนิธิปวีณาฯ ที่ประสบปัญหาชีวิตและฐานะยากจนมาอย่างต่อเนื่อง วันนี้ทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รพ.วิมุต จะช่วยเหลือรักษาน้องอั้มในเบื้องต้น จากนั้นมูลนิธิปวีณาฯ จะได้นำผลการตรวจดวงตาวันนี้ส่งไปยังรพ.ศิริราช ซึ่งจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เคยรักษาน้องมาและมีประวัติการรักษาน้องตั้งแต่เด็กเพื่อทำการรักษาต่อไป โดยน้องอั้มจะอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ และพาไปรักษาอย่างต่อเนื่อง